4G63 Series

ถ้าจะพูดถึงเครื่องยนต์ตัวแรงของค่ายมิตซูในยุคเมื่อ 20 ปี ที่ผ่านว่า คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินหรือรู้จัก รุ่นแรกออกมาในปี 1997 ที่พูดถึงตัวนี้เพราะว่ามันไปลงใน Mitsubishi Evolution  แลนเซอร์รุ่นพิเศษที่ได้วิวัฒนาการขึ้นมาเป็นรถแข่งที่เครื่องยนต์มีความแรงกว่าแลนเซอร์ทั่วไป อีโวลูชันรุ่น 1 ถึง 8 และ 9-10 ไม่ใช้ ซึ่งจะใช้เครื่องยนต์รุ่น 4G63T เทอร์โบชาร์จ 2000 ซีซี ขับเคลื่อนสี่ล้อ โดย  Mitsubishi ขายอีโวลูชันภายในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่ส่งออก แต่ว่า กลุ่มบริษัทนำเข้ารถยนต์อิสระ จึงได้ใช้สิทธิตามกฎหมายเป็นผู้ส่งอีโวลูชันออกไปขายตามตลาดภูมิภาคต่างๆ ของโลก จนอีโวลูชันกลายเป็นรถที่มีชื่อเสียง มิตซูบิชิจึงตัดสินใจเริ่มส่งออกอีโวลูชันไปขายเองในปี พ.ศ. 2546 โดยเริ่มส่งออกอีโวลูชันเองในรุ่นที่ 8 เป็นรุ่นแรก ประเทศไทย อีโวลูชันของจริงพบเห็นได้น้อยมาก เพราะด้วยสมรรถนะสูงและออปชันต่างๆ ของอีโวลูชัน ทำให้มีราคาแพง ซึ่งก็น่าจะเหมือนหลายรุ่นของ HONDA Type R ซึ่งไม่มีขายในไทย ต้องขายผ่านผูจำหน่ายอิสระ

เรามาพูดถึงเครื่องยนต์ตัวนี้กัน ว่ามันมีข้อดียังไงเรามาดูกันว่ามีวิวัฒนาการการยังไงก่อนจะเป็นตัวแรงในอดีตที่สาวกมิตซูต้องการมาติดตั้งในรถ เพราะตัว 4G63 มีหลายรุ่นแต่รุ่นที่ดังคือรุ่น 4G63T1 ซึ่งประจำอยู่ในรถ Mitsubishi ECLIPSE  และรุ่นต่อๆมาก็ประจำการใน  Mitsubishi   Evolution ทั้ง 6 รุ่น แต่ละรุ่นใช้เครื่องยนต์รหัสเดียวกันแต่แตกต่างที่แต่ละรุ่นคือเทอโบชาร์ต ( Turbo charge) เป็นตัวกำหนดแรงม้าที่เพิมขึ้น เรามาดูกันครับ

4G63 รุ่นแรก

รุ่นแรกออกมายังไม่มีเทอร์โบ เป็นเครื่องยนต์แบบธรรมดา เป็นเครื่องยนต์แบบ แบบ 4 สูบ มีทั้งแบบ SOHC และ DOHC 16V เอาละทำไมมันใช้รหัสเดียวกันหว่า หรือ ว่ามันมีอะไรที่แยกความแตกต่างละ มีกี่รุ่นกันแน่และแตกต่างกันยังไง เรามาดูกันเลยครับ

4G63B

ภาพ 4G63B ลงใน Mitsubishi Galant

เป็นรุ่นที่เครื่องยนต์แบบ แบบ 4 สูบ แบบ SOHC  ซึ่งผลิตในปี 1989 เป็นเครื่องยนต์ที่ใช้สำหรับรถกระบะเป็นส่วนใหญ่ เช่น Mitsubishi L200,Strada,Mighty Max และ Dodge Ram 50 (รถยนต์ค่ายมิตซูแต่ส่งไปขายแถวยุโรป น่าจะเหมือนกับรุ่น L200) มีกำลังที่ 92 แรงม้า  และน่าจะมีลงใน Mitsubishi Galant ซึ่งขับเคลื่ยนล้อหน้ารุ่นแรกที่ลงตัวนี้ และมีกำลังถึง 110 แรงม้า จนถึงปี 1993 จึงเปลี่ยนไปเป็นแบบ DOHC และยังมีไปลงในพวกรถบรรทุกด้วย เช่น  Mitsubishi Canters รุ่นนี้ก็ขอยกตัวอย่างเท่านี้นะครับ เพราะยังมีอีกหลายรุ่นที่น่าสนใจ

ภาพ Dodge D-50 อ้างอิง http://www.allpar.com/trucks/ram/ram-50.html

4G63 Non Turbo 6 Bolts DOHC

เป็นรุ่นที่เครื่องยนต์แบบ แบบ 4 สูบ แบบ DOHC มีแรงม้าที่ 140 แรงม้า ถูกติดตั้งใน   Mitsubishi Eclipse, Eagle Talon (ค่าย Diamond Star Motors)  และ  Plymouth Laser (ค่าย Diamond Star Motors) รุ่นนี้น่าจะมีหลายรุ่นที่ใช้รถข่าย Chrysler Corporation ด้วย ซึ่งเป็นการร่วมมือกัยผลิตออกมา แต่ใช้ในรถคนละรุ่น และรุ่นที่กล่าวมามีทั้งต้องดูปีผลิตด้วยนะว่าปีไหนและเลือกใช้ขนาดเครื่องยนต์ต่างกัน

ภาพตารางรถที่ผลิตใช้เครื่องยนต์ 4G63 อ้างอิง https://en.wikipedia.org/wiki/Plymouth_Laser

4G63T ตัวแรง

เครื่องยนต์เป็นแบบ DOHC และมีเทอร์โบจากโรงงาน (Turbocharged) ใช้ชื่อรหัสว่า Sirius หลังจากนั้นมันก็ถูกเปลื่ยนชือ่เป็น Cyclone Dash ถูกบรรจุในรุ่น Mitsubishi Galant มีชื่อว่า VR-4 มาพร้อมกับฝาแดง Cyclone  มีกำลัง 205 แรงม้า เลยทีเดียว ผลิตในปี 1992 และพัฒนาต่อไปเป็นรุ่นที่อยู่ในตัวของ Mitsubishi  Eclipse GS-T,GSX และ Spyder GS-T เป็นต้น  รุ่นปี 1995-1999 มีกำลัง 227 แรงม้าเลยที่เดียว  มีหลายรุ่นที่ผลิตและใช้เครื่องรุ่นนี้แต่ ชื่อต่างกัน  เช่น Dodge Colt ค่ายรถ Dodge และ Chrysler Sigma ซึ่งถ้าเจอะรถรุ่นนี้จะได้ไม่งง ว่ามาจากไหน จริงๆแล้วมันถูกบรรจุในหลายรุ่นไม่เฉพาะรุ่น EVO อย่างที่เข้าใจ ดังนี้  Mitsubishi Galant VR-4, Lancer Evolution, Carisma GT และ Lancer WRC04 และน่าจะมีค่าย  Hyundai ด้วย ซึ่งใช้เป็นรถสำหรับแข่งใน  World Rally Championships ซึ่งเครื่องยนต์ก็มีความแรงตามแต่ละปี ออกมาหลายรุ่นซึ่งเพิ่มความแรงของเครื่องยนต์ขึ้นไป มาติดตามกัน ซึ่งรุ่น Lancer Evolution I เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจากรุ่นนี้อีทีครับ และได้ปรับจูนเพื่อรีดพลังให้ได้ถึง 245 แรงม้า มาว่ากันเลยครับ ว่ามีรุ่นไหนกันบ้างสำหรับ

4G63T EVO I

ผลิตเมือปี  1992-1994  ใช้ตัวถังของแลนเซอร์รุ่นที่ 6 หรือโฉม E-CAR ได้เข้าร่วมการแข่งขัน World Rally Championship ขุมพลัง 4G63T DOHC 16 วาล์ว มีเทอร์โบชาร์จและอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 247 แรงม้า ที่6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 31.6 กิโลกรัม-เมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที ใช้เกียร์ธรรมดา 5 สปีด ส่งกำลังลงสู่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ คู่หน้าแบบมีรูระบายความร้อน

4G63T EVO II

ผลิตเมือปี  1994-1995  มีการปรับปรุงระบบเครื่องยนต์โดยเพิ่มแรงดัน Booster Turbo ทำให้มีกำลังเพิ่มจาก 247 เป็น 256 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาที (เครื่องยนต์ 2000 ซีซีเท่ากัน) ทอร์ค 31.6 กิโลกรัม-เมตร ที่ 3000 รอบต่อนาที ใช้เกียร์ธรรมดา 5 สปีดส่งกำลังสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

4G63T EVO III

ผลิตเมือปี  1995-1996  ได้มีการติดตั้งแอโรพาร์ท และสปอยเลอร์รอบคัน เพื่อเพิ่มแรงกด(ให้ยึดติดกับพื้นถนน กันลอย) และลดค่าการต้านทานอากาศ(แอโรไดนามิค)ลง ทำให้รถพุ่งได้ดียิ่งขึ้น และเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ของระบบเทอร์โบชาร์จ ทำให้มีกำลังเพิ่มขึ้นอีก จาก 256 เป็น 270 แรงม้า ที่ 6250 รอบต่อนาที (เครื่องยนต์ 2000 ซีซี) ทอร์ค 31.6 กิโลกรัม-เมตร ที่ 3000 รอบต่อนาที ใช้เกียร์ธรรมดา 5 สปีด น้ำหนักรถ 1190-1260 กิโลกรัม

4G63T EVO IV

ผลิตเมือปี  1996-1997 อีโวลูชันรุ่นที่ 4 ได้เปลี่ยนมาใช้ตัวถังพื้นฐานของแลนเซอร์รุ่นที่ 7 เครื่องยนต์ที่ใช้ ยังเป็นเครื่อง 4G63T ขนาด 2000 ซีซี เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้าทั้ง 3 รุ่น แต่ใช้เครื่องยนต์แบบเทอร์โบคู่ (Twin Scroll Turbo) ปรับสมรรถนะขึ้น โดยมีกำลัง 276 แรงม้า ที่ 6500 รอบต่อนาที

4G63T EVO V

ผลิตเมือปี  1998-1999  ได้เพิ่มช่องรับอากาศขนาดใหญ่เพื่อระบายความร้อนในเครื่องยนต์ ตัวถังยาว 4350 มิลลิเมตร กว้าง 1770 มิลลิเมตร สูง 1405-1415 มิลลิเมตร หนัก 1260 – 1360 กิโลกรัม เครื่องยนต์มีแรงม้าเท่าเดิม แต่แรงบิดเพิ่มเป็น 38.1 กิโลกรัม-เมตร ที่ 3000 รอบต่อนาที

4G63T EVO VI

ผลิตเมือปี  1999-2001 ได้มีการปรับปรุงระบบแอโรพาร์ท และระบบหล่อเย็นเครื่องยนต์ ตามมาตรฐาน FIA ปรับปรุงระบบ Active Yaw Control ให้ทันสมัยขึ้น เปลี่ยนแกนเทอร์ไบน์เป็นไททาเนียม ปรับปรุงระบบสั่นสะเทือนเพื่อให้ยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น เครื่องยนต์ของอีโวลูชัน 6 มีแรงม้าเท่าเดิม แต่แรงบิด เปลี่ยนเป็น 38.1 กิโลกรัม-เมตร ที่ 2750 รอบต่อนาที

4G63T EVO VII

ผลิตเมือปี  2001-2003 ได้เปลี่ยนมาใช้ตัวถังของแลนเซอร์รุ่นที่ 8  ยังใช้เครื่องยนต์ 4G63T แต่ปรับปรุงระบบทางเดินไอเสียให้ระบายไอเสียได้ดีขึ้น มีแรงม้าสูงสุด 280 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 39.4 กิโลกรัม-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ระบบขับเคลื่อนเปลี่ยนมาใช้ระบบ Active Center Differential แทนระบบ Viscous Coupling ติดตั้งระบบไฮดรอลิกควบคู่กับระบบคลัตช์หลายแผ่น

4G63T EVO VIII

ผลิตเมือปี  2003-2005 เป็นรุ่นแรกที่มิตซูบิชิได้ส่งออกไปขายในประเทศอเมริกา มีการปรับปรุงระบบอินเตอร์คูลเลอร์และเทอร์โบชาร์จ เพิ่มความทนทานของก้านลูกสูบอลูมีเนียม ก้านสูบแบบเหล็กหล่อ เปลี่ยนไปใช้สปริงวาล์วแบบเบา มีกำลังสูงสุด 280 แรงม้า ที่6500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 40.1 กิโลกรัม-เมตร ที่3500 รอบต่อนาที รุ่นสุดท่้ายที่ใช้เครื่องยนต์ 4G63T

EVO IX

ผลิตเมือปี  2005-2008 ไม่ใช้แล้วนะครับ 4G63T แต่ไปใช้ MIVEC แทน ใช้ระบบเทอร์โบ-อินเตอร์คูลเลอร์เวอร์ชันล่าสุด ทำงานพร้อมกับระบบ MIVEC ให้กำลังได้สูงสุด 291 แรงม้า แรงบิดสงสุด 40.1 กิโลกรัม-เมตร มีการตกแต่งภายในเลียนแบบให้เหมือนรถแข่งแรลลี่มากที่สุด

EVO X

ผลิตเมือปี  2008-ปัจจุบัน ด้วยเครื่องยนต์ 4B11 มีกำลัง 280 แรงม้า และอีกตัวเป็นรุ่น ลิมิตเต็ด เครืองยนต์ V8 มีกำลังถึง 680 แรงม้า

สรุป

คิดจะเปลี่ยนเครื่องยนต์ค่ายมิตซู ตัวแรงสุด 4G63T น่าจะเป็นตัวที่อยู่บน EVO VIII รุ่นที่ 8 นะครับ เพราะสามารถรีดพลังได้ถึง 280 แรงม้ากันเลยทีเดียว และราคาก็น่าจะแพงพอสมควร ถ้าจบไม่มากก็ลองหาตัวที่ลดลงมานะครับผม

Facebook Comments