Honda Civic Type R เป็นมายังไง

      Civic Type R ทำไมต้องแรง  รุ่นปี 2016 นี้ได้แสดงใน งานมอเตอร์โชว์ที่ปารีส 2016 ยังไม่เห็นในงานมอเตอร์โชว์ที่ไทย ซึ่งคาดว่าจะว่างขายในยุโรปก่อนในช่วงไตรมาสที่สอง ประมาณน่าะเป็นช่วงเดือนเมษายน ส่วนอเมริกายังไม่กำหนดแน่นอน เห็นเมืองไทยคงไม่ต้องคอยนะครับ เพราะไม่น่าจะมาทำตลาด แต่น่าจะมีผู้นำอิสระเข้ามาทำตลาดในไทยบ้าง  จริงๆ แล้ว HONDA Type R ไม่ใช่รุ่นใหม่ แต่มีมาตั้งแต่ปี  2001 แล้ว ทำตลาดอยู่ในญี่ปุ่นเป็นหลัก JDM (Japan Domestic market )  ขอท้าวความหน่อยนะครับ ว่าทำไม Type R หรือเป็นรุ่น Race ซึ่งสำหรับใช้ในการแข่งขัน ซึ่งเป็นรุ่นที่ทำการลดน้ำหนักของตัวรถ และเลือกขนาดของเครื่องยนต์ และ เครื่องยนต์ก็มีการรีดพลังโดยการปรับแต่งให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด แรงม้าสูงสุด ซึ่งปกติรุ่นนี้จะใช้สำหรับลงแข่งขัน F1 ของค่าย HONDA เลยทีเดียว ซึ่ง Type R จะมีอยู่หลายรุ่นด้วยกัน เช่น  NSX Type R, Intergra Type R,Accord Type R และ สุดท้ายก็ Civic Type R ตามนั้นนะครับ ดังนั้นถ้ากล่าวเช่นนี้แล้วก็แสดงว่ารุ่นพวกนี้ไม่ธรรมดา เป็นตัวท๊อปเรื่องความเร็วของรุ่นเลยที่เดียว และราคาไม่ต้องพูดถึงนั้นก็หมายความว่าต้องแพงสมราคา ครับ

       ถ้าจะให้โฟกัสที่ HONDA Civic Type R แรกเริ่มเดิมทีจะวางบน Civic EK9 ในปี 1997 ซึ่งเป็นตัวแรกเริ่มผลิตในปี 1997-2000 ซึ่งมีหลายชื่อให้เรียกนะครับ เช่น Civic 2-Door hatchback SIR โดยตัวแรกใช้เครื่องยนต์ B16B มีแรงม้าถึง 185 แรงม้า  รุ่นที่สองเริ่มผลิตตั้งแต่ปี 2001-2005 ทำตลาดและผลิตในสวีเดน และอิงแลนท์ ใช้เครื่องยนต์ K20A2 เป็นแบบ I-VTEC มีกำลัง 200 แรงม้า ขายในยุโรป (EDM) แต่รุ่นนี้ภายในยังเดิมๆ เหมือนรุ่นที่ไปต่างกันที่เครื่องยนต์เป็นหลัก แต่ตัวที่ขายในญี่ป่่นในตัวที่มีชื่อเล่นคือ EK9 ภายในเต็มรูปแบบด้วยเบาะ Recaro นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ Type R ที่แรงและดูหรู  รุ่นที่สามคือ FD2 ผลิตตั้งแต่ปี 2006-2011 ตัวนี้ยังคงใช้เครืองยนต์ K20A เหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมเทคโนโลยี่ทางด้านท่อไอดี (intake) โดยนำมาทางตัวที่ลงในรุ่น NSX Type R และ Drive-by-wire โดยจะใช้มอเตอร์ตัวควบคุมอากาศที่ลิ้นปีกผีเสื้อ หรือคันเร่งไฟฟ้าในปัจจุบันที่หลายรุ่นใช้กีน ข้ออธิบายโอกาศหน้าครับ ซึ่งตัวนี้จัดว่าเป็นรุ่นที่สมบูรณ์แบบ เพราะแรงม้าที่ได้ถึง 225 แรงม้า และแตกลายผลิตไปเป็น Mirror หลายรุ่นจนถึงปัจจุบันก่อนที่จะออกตัวใหมปี 2016 ออกมา เช่น Civic Mugen RC ผลิตตั้งแต่ 2008-ปัจจุบัน  ผมไม่ขอลงรายละเอียดนะครับ

Civic Type R 2016

จะเรียกรุ่นรุ่น Gen 5 ของ Civic Type R อาจจะบอกว่านี่คือ   ซึ่งแสดงล่าสุดในงานมอเตอร์โชว์ที่ปารีส ฝรังเศส ออกแบบโดยยึดหลักต้นแบบจากรุ่น  hatchback (3-door)  ออกแบบภายในใหม่หมด  มีอุุปกรณ์อำนวนความสะดวกครบครัน มีระบบระบายอากาศที่ฝากระโปรงเพื่อรับอากาศได้มากขึ้น ไฟท้าย LED และสเกริตแบบคาร์บอนไฟเบอร์ รวมทั้งซุ่มล้อ และอื่นๆ อีกมากโดยรวมสวยมาก และที่ขาดไม่ได้เครื่องยนต์ตัวใหม่ K20C1 ขนาด 2.0 ลิตร แบบ DOHC มีกำลังสูงสุดถึง 310 แรงม้าที่ 6500 รอบ  แรงม้านับว่าพอตัวพอสมควร และโดยใช้หลักการ direct-injected turbocharged และ Full I-VTEC คอนโทรล  คู่กับเกียร์ธรรมดาแบบ 6 จังหวะ  และนี่คือหัวใจหลักใหการรีดแรงม้าได้ถึง 310 แรงม้า

ราคาขายในยุโรป

ราคาเปิดตัวประมาณ 30,000 ยูโร หรือประมาณ 46,000 ดอลลาร์ (US) หรือ 1,500,000 บาทไทย แต่ถ้านำเข้ามาน่าจะเจอภาษีประมาณ 300% น่าะประมาณ 5,000,000 บาทไทยโดยประมาณ ผิดถูกกรูณาทักท้วงนะครับ

Civic Type R Prototype


Civic Type R Prototype มาพร้อมตัวถังสีเทาด้านเคลือบเงาพิเศษ ติดตั้งชุดแต่งเสริมแอโร่ไดนามิครอบคัน ทั้งลิ้นกันชนหน้า, สปอยเลอร์ด้านข้าง และดิฟฟิวเซอร์ท้าย ติดตั้งไฟหน้าแบบ LED พร้อมกระจังหน้าสีดำเงาแปะโลโก้ ‘Type R’, ฝากระโปรงหน้ามาพร้อมช่องดักลม

ด้านท้ายติดตั้งสปอยเลอร์ และปลายท่อไอเสียแบบ 3 ท่อวางกลาง เสริมโป่งล้อทั้ง 4 ข้างให้ยื่นออกมามากกว่าปกติ ติดตั้งตั้งครีบระบายความร้อนบริเวณซุ้มล้อด้านหน้า พร้อมล้ออัลลอยสีดำ-แดงขนาด 20 นิ้ว

ภายใน (Interior)

ภายในเต็มรูปแบบด้วยเบาะ Recaro นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ Type R ที่แรงและดูสวยหรูมาก

K20C1 SPEC

เครื่องยนต์ VTEC TURBO ขนาด 2.0 ลิตร  เทอร์โบชาร์ต (Turbocharged)  และปรับปรุง Intake แบบ Drive-by-wire  เทคโนโลยีขั้นสูงในการปรับปรุงอำนาจการตอบสนองและประสิทธิภาพระบบระบายความร้อนช่วยให้ผลผลิตสูงและประสิทธิภาพความเร็วสูงอย่างยั่งยืน โดยปรับปรุงระบบรับอากาศใหม่หมด มีจมูกสำหรับรับอากาศมากขึ้น มีแรงม้าสูงสุดที่ 310 แรงม้า

 

การออกแบบและดีไซน์จาก Youetube

ซึ่งตัวนี้เป็นตัวต้นแบบ

สรุป

โดยภาพรวมถือว่าเป็นรถที่ใช้มาก เพราะดูจากสมรถนะของเครื่องยนต์ผสมกับรูปลักษณ์ภายนอกบวกกับการตกแต่งภายในที่สวยมาก สาวกที่นิยมรถแรงและสวยงามไม่น่าพลาด แต่น่าจะซื้อจากผู้นำเข้าอิสระเท่านั้น เพราะไม่มีขายในบ้านเรา

Facebook Comments